บทที่13 ไฟฟ้าสถิต
ไฟฟ้าสถิต (Static electricity หรือ Electrostatic Charges)
เป็นปรากฏการณ์ที่ปริมาณประจุไฟฟ้าขั้วบวกและขั้วลบบนผิววัสดุมีไม่เท่ากัน ปกติจะแสดงในรูปการดึงดูด,การผลักกันและเกิดประกายไฟ
*** รูปแสดงฟ้าแลบ ฟ้าผ่า ปรากฏการณ์จากประจุไฟฟ้าสถิต
ประจุไฟฟ้า (Charge)
( Law of Conservation of Charge )
ประจุไฟฟ้าเป็นปริมาณทางไฟฟ้าปริมาณหนึ่งที่กำหนดขึ้น ธรรมชาติของสสารจะประกอบด้วยหน่วยย่อยๆที่มีลักษณะและมีสมบัติเหมือนกันที่เรียกว่า อะตอม(atom) ภายในอะตอม จะประกอบด้วยอนุภาคมูลฐาน 3 ชนิดได้แก่ โปรตอน (proton) นิวตรอน (neutron) และ อิเล็กตรอน (electron)โดยที่โปรตอนมีประจุไฟฟ้าบวก กับนิวตรอนที่เป็นกลางทางไฟฟ้ารวมกันอยู่เป็นแกนกลางเรียกว่านิวเคลียส (nucleus) ส่วนอิเล็กตรอน มีประจุไฟฟ้าลบ จะอยู่รอบๆนิวเคลียส
***ภาพแสดงอะตอมมีจำนวนโปรตอนเท่ากับจำนวนอิเล็กตรอน(ในสภาพปกติ)
ตามปกติวัตถุจะมีสภาพเป็นกลางทางไฟฟ้า กล่าวคือจะมีประจุไฟฟ้าบวกและประจุไฟฟ้าลบ เท่ากัน เนื่องจากในแต่ละอะตอมจะมีจำนวนอนุภาคโปรตอนและอนุภาคอิเล็กตรอนเท่ากัน เป็นไปตามกฏการอนุรักษ์ประจุข้อสังเกต - ถ้าวัตถุมีสภาพประจุไฟฟ้าบวกเท่ากับประจุไฟฟ้าลบ วัตถุนั้นเป็นกลาง จะไม่มีสภาพของไฟฟ้าสถิต
- ถ้าบนวัตถุมีประจุไฟฟ้าลบมากกว่าประจุไฟฟ้าบวก เรียกวัตถุนั้นว่าวัตถุมีประจุลบ (การที่มีประจุลบมากกว่าเกิดจากวัตถุนี้ได้รับอิเล็กตรอนเพิ่มเข้ามา)
- ถ้าบนวัตถุมีประจุไฟฟ้าบวกมากกว่าประจุไฟฟ้าลบ เรียกวัตถุนั้นว่าวัตถุมีประจุบวก (การที่มีประจุบวกมากกว่าเกิดจากวัตถุนี้สูญเสียอิเล็กตรอนไป)
การทำให้เกิดสภาพไฟฟ้าสถิตบนวัตถุ
1. วิธีการขัดถูกันของวัตถุ
***ภาพแสดงการนำวัสดุมาขัดถูกันทำให้วัตถุมีประจุ ตรวจสอบโดยการต่อเข้ากับหลอดไฟ
การที่ปริมาณประจุไฟฟ้าขั้วบวกและขั้วลบบนผิววัสดุมีไม่เท่ากันทำให้เกิดแรงดึงดูดเมื่อวัตถุทั้ง 2 ชิ้นมีประจุต่างชนิดกัน หรือเกิดแรงผลักกัน เมื่อวัสดุทั้ง 2 ชิ้นมีประจุชนิดเดียวกัน เราสามารถสร้างไฟฟ้าสถิตโดยการนำผิวสัมผัสของวัสดุ 2 ชิ้นมาขัดสีกัน พลังงานที่เกิดจากการขัดสีกันทำให้ประจุไฟฟ้าบนผิววัสดุจะเกิดการแลกเปลี่ยนกัน โดยจะเกิดกับวัสดุประเภทที่ไม่นำไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า ฉนวน ตัวอย่างเช่น ยาง,พลาสติก และแก้ว สำหรับวัสดุประเภทที่นำไฟฟ้านั้น โอกาสเกิดปรากฏการณ์ประจุไฟฟ้าบนผิววัสดุไม่เท่ากันนั้นยาก แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้
***รูปแสดงประจุลบจากผ้าขนสัตว์ติดบนแท่งอำพัน ทำให้แท่งอำพันมีประจุลบ และผ้าขนสัตว์มีประจุบวก
การขัดสีหรือการถู วัตถุ 2 ชนิดที่มาขัดสี หรือถูกัน จะทำให้มีการถ่ายเทของประจุไฟฟ้า(อิเล็กตรอน)ระหว่างวัตถุทั้งสอง วัตถุใดสูญเสียอิเล็กตรอนไปวัตถุนั้นจะมีประจุไฟฟ้าเป็นบวก ส่วนวัตถุที่ได้รับอิเล็ก ตรอนมา จะมีประจุไฟฟ้าเป็นลบ ในการขัดสีหรือถู จำนวนประจุไฟฟ้าที่เกิดขึ้นบนวัตถุทั้งสองมีขนาดเท่ากัน แต่มีประจุไฟฟ้าเป็นชนิดตรงข้าม เช่น วัตถุ A และ B เดิมเป็นกลางทางไฟฟ้า เมื่อนำมาถูกันปรากฏว่าหลังจากถูกัน วัตถุ A มีประจไฟฟ้า +1.6 x 10 ^-19 คูลอมบ์ แสดงว่าวัตถุ B ก็จะมีประจุไฟฟ้า -1.6 x 10^-19 คูลอมบ์ ตัวอย่างของการทำให้เกิดประจุบนวัตถุโดยการขัดถูกันของวัตถุ คือ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสถิต หรือเรียกว่า Van de graaff generator หลักการขัดถูกันโดยใช้สายพาน ทำให้ทรงกลมมีประจุไฟฟ้าเป็นบวก เมื่อคนไปแตะทรงกลมจะทำให้คนเกิดประจุบวก เมื่อเส้นผมต่างมีประจุเป็นบวกก็จะเกิดแรงผลักกันทางไฟฟ้าสถิต ทำให้เส้นผมชี้ขึ้น
"สรุปว่าการเกิดประจุจากการขัดสีกัน วัตถุแต่ละอันจะมีขนาดประจุไฟฟ้าเท่ากัน แต่เป็นประจุชนิดตรงกันข้าม"
13.1 แรงระหว่างประจุและกฎของคูลอมบ์
เมื่อ F คือ ขนาดของแรงกระทำ (N) K คือ ค่าคงที่ของคูลอมบ์ มีค่า 9 x 109 N-m2/c2 Q คือ ขนาดประจุตัวที่1 และ2 ตามลำดับ (C) r คือ ระยะห่างระหว่างประจุทั้งสอง (m)**** การคำนวณขนาดของแรงกระทำ ไม่ต้องนำเครื่องหมายของประจุมาคำนวณ****
13.2 สนามไฟฟ้ารอบจุดประจุ
จุดประจุ หมายถึงประจุไฟฟ้าที่มีขนาดความกว้าง ความยาวน้อยมาก ( เช่นอิเล็กตรอน 1 ตัว ) และปกตินั้นประจุไฟฟ้าใดๆ จะมีแรงทางไฟฟ้าแผ่ออกมารอบๆ ตัวประจุขนาดหนึ่งเสมอ เราเรียกบริเวณรอบประจุซึ่งมีแรงทางไฟฟ้าแผ่ออกมานั้นว่า สนามไฟฟ้ า ( E )
สนามไฟฟ้าเป็ นปริมาณเวกเตอร์ เพราะเป็น ปริมาณที่มีทิศทาง และทิศของสนามไฟฟ้า กําหนดว่า สําหรับตัวประจุบวก สนามไฟฟ้ ามีทิศออกตัวประจุ สําหรับตัวประจุลบ สนามไฟฟ้ ามีทิศเข้าตัวประจุ
ดังแสดงในรูป เส้นของแรงทีÉเขียนแทนแรงทางไฟฟ้า ที่แผ่ออกมาเรียก เส้นแรงไฟฟ้า

เมื่อ E คือ ความเข้มสนามไฟฟ้า (N/C)
F คือ ขนาดของแรงกระทำ (N)
K คือ ค่าคงที่ของคูลอมบ์ มีค่า 9 x 109 N-m2/c2
Q คือ ขนาดประจุต้นเหตุ (C)
r คือ ระยะห่างระหว่างประจุทั้งสอง (m)
**** การคำนวณขนาดของแรงกระทำ ไม่ต้องนำเครื่องหมายของประจุมาคำนวณ****
จุดสะเทิน คือจุดที่มีค่าสนามไฟฟ้ าลัพธ์มีค่าเป็ นศูนย์ โดยทั่วไปแล้ว
1. จุดสะเทินจะ เกิดขึ้นได้เพียงจุดเดียวเท่านั้น
2. จุดสะเทินของประจุ 2 ตัว จะเกิด ในแนวเส้นตรงที่ลากผ่านประจุทั้งสอง หากประจุทั้งสองเป็นประจุชนิดเดียวกัน จุดสะเทินจะอยู่ระหว่างประจุทั้งสอง หากประจุทั้งสองเป็นประจุต่างชนิดกัน จุดสะเทินจะอยู่รอบนอกประจุทั้งสอง
3. จุดสะเทินจะเกิดอยู่ใกล้ประจุที่มีขนาดเล็กกว่า
13.3 ศักย์ไฟฟ้ารอบจุดประจุ
เมื่อเรานําประจุทดสอบ ( q ) มาวางใน สนามไฟฟ้าของประจุต้นเหตุ ( Q ) ประจุทดสอบนั้น
จะถูกแรงกระทําทําให้เกิดการเคลื่อนที่ และการที่ประจุทดสอบสามารถเคลื่อนที่ได้ แสดงว่า ประจุทดสอบนั้นมีพลังงานสะสมอยู่ภายในตัว พลังงานที่สะสมในประจุเช่นนี้ เรียกว่า
พลังงานศักย์ไฟฟ้า ( Ep ) และขนาดของพลังงานศักย์ไฟฟ้าของประจุ 1 คูลอมบ์
จะเรียกว่าศักย์ไฟฟ้ า ( V )
ศักย์ไฟฟ้าเป็นปริมาณสเกลาร์ เพราะเป็นปริมาณที่ไม่มีทิศทาง เราสามารถคํานวณหาค่า
ของศักย์ไฟฟ้ารอบจุดประจุได้จาก

เมื่อ V คือศักย์ไฟฟ้า ( โวลต์ )
q คือประจุทดสอบ ( คูลอมบ์ )
Ep คือพลังงานศักย์ไฟฟ้ าของประจุทดสอบ ( จูล )
Q คือประจุต้นเหตุ ( คูลอมบ์ )
R คือระยะห่างจากประจุต้นเหตุ ( เมตร )
ข้อควรทราบ
1) การคํานวณหาศักย์ไฟฟ้าต้องแทนเครื่องหมาย บวก และลบ ของประจุด้วยเสมอ
2) เมื่อทําการเลื่อนประจุทดสอบ ( q ) จากจุดที่หนึ่งไปสู่จุดที่สองซึ่งมีศักย์ไฟฟ้าต่างกัน
เราสามารถคํานวณหางานที่ใช้เลื่อนประจุนั้นได้จาก
W = q (V2-V1)
เมื่อ W คืองานที่ใช้ในการเลื่อนประจุ ( จูล )
q คือประจุที่ถูกเลื่อน ( คูลอมบ์ )
V1 คือศักย์ไฟฟ้าที่จุดเริ่มต้น (โวลต์ )
V2 คือศักย์ไฟฟ้าที่จุดสุดท้าย ( โวลต์ )
13.4 สนามไฟฟ้า และศักย์ไฟฟ้าเนื่องจากประจุบนตัวนำทรงกลม
กรณีที่1 คำนวณอยู่ภายนอก หรือผิววัตถุ ใช้สมการ

เมื่อ E คือ ความเข้มสนามไฟฟ้า (N/C)
K คือ ค่าคงที่ของคูลอมบ์ มีค่า 9 x 109 N-m2/c2
Q คือ ขนาดประจุต้นเหตุ (C)
r คือ ระยะห่างระหว่างประจุทั้งสอง (m)
V คือศักย์ไฟฟ้า ( โวลต์ )
กรณีที่2 จุดที่คำนวณอยู่ภายในวัตถุ
E ทุกจุดภายในตัวนำ = 0
V ทุกจุดภายในตัวนำ = V ที่ผิววัตถุนั้น
13.5 ความสัมพันธ์ระหว่างความต่างศักย์และสนามไฟฟ้าสม่ำเสมอ

q คือ ประจุทดสอบ (C)
d คือ ระยะห่างระหว่างจุดที่คำนวณ (m)
V คือศักย์ไฟฟ้า ( โวลต์ )
13.6 ตัวเก็บประจุและความจุ
เมื่อ C คือ ตัวเก็บประจุ (F)
Q คือ ปริมาณประจุ
V คือ ศักย์ไฟฟ้า
13.6.1 ตัวเก็บประจุ
ตัวเก็บประจุ แบบทรงกลม
เมื่อ a คือ รัศมีทรงกลม (m)
ตัวเก็บประจุ แบบแผ่นโลหะคู่ขนาน

พลังงานไฟฟ้าที่เก็บสะสมในตัวเก็บประจุแผ่นโลหะคู่ขนานหาได้จาก

เมื่อ U คือ พลังงานที่เก็บสะสม (J)
13.6.2 การต่อตัวเก็บประจุ
13.6.3 การถ่ายโอนประจุระหว่างทรงกลมตัวนำ
การถ่ายโอนประจุ เป็นไปภายใต้กฎ คือ
1. หลังแตะ ศักย์ไฟฟ้าของตัวเก็บประจุทุกตัวจะเท่ากัน
2. ประจุรวมก่อนแตะ = ประจุรวมหลังแตะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น